ผลสำรวจส่อยกเลิกกิจกรรมหน้าเสาธง-วิชาลูกเสือด่วนผลสำรวจ นักเรียนไทย อยาก เพิ่มวิชาการเงิน การลงทุน

ผลสำรวจส่อยกเลิกกิจกรรมหน้าเสาธง-วิชาลูกเสือด่วนผลสำรวจ นักเรียนไทย อยาก เพิ่มวิชาการเงิน การลงทุน

เมื่อวันที่ (13 มกราคม 2567) Rocket Media Lab ร่วมกับมูลนิธิแพธทูเฮลท์ ได้จัดทำแบบสอบถามนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 6 ทั่วประเทศ ในช่วงวันที่ 9-11 มกราคม 2567 เพื่อสำรวจความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณฑ์ในโรงเรียน การเรียนการสอน ครู 
 
จากจำนวนนักเรียนที่ตอบแบบสอบถามทั่วประเทศทั้งหมด 1,985 คน พบว่า เป็นเพศชาย 488 คน หญิง 1,247 คน LGBTQIA+ 199 คน และไม่ต้องการระบุเพศ 51 คน ในจำนวนนี้แยกเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา 163 คน ระดับชั้นมัธยมศึกษา 1,772 คน และ ปวช. 50 คน 
 
เมื่อแยกพื้นที่ของนักเรียนที่ตอบแบบสอบถามตามภาคจะพบว่า เป็นนักเรียนในภาคกลางมากที่สุด 746 คน คิดเป็น 37.58% รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 709 คน คิดเป็น 35.72.% ภาคเหนือ 248 คน คิดเป็น 12.49% ภาคใต้ 194 คน คิดเป็น 9.77% ภาคตะวันออก 49 คน คิดเป็น 2.47% และภาคตะวันตก 39 คน คิดเป็น 1.9%
 
สถานที่ใดในโรงเรียนที่อยากให้ปรับปรุงมากที่สุด
 
จากคำถามข้อแรกที่ถามว่าสถานที่ใดที่อยากให้ปรับปรุงมากที่สุด ผลสำรวจพบว่า ‘ห้องน้ำ’ เป็นสถานที่ที่นักเรียนอยากให้ปรับปรุงมากที่สุด โดยตอบสูงถึง 1,388 คน คิดเป็น 96.92% รองลงมาคือ ห้องเรียน 187 คน คิดเป็น 9.42% โรงอาหาร 156 คน คิดเป็น 7.86% สนามกีฬา 142 คน คิดเป็น 7.15% ห้องพยาบาล 31 คน คิดเป็น 1.56% ห้องสมุด 27 คน คิดเป็น 1.36% 
 
อื่นๆ 54 คน คิดเป็น 2.72% เช่น ห้องพักครู โดม หอประชุม โรงรถ ห้องเก็บของ และบางส่วนก็เขียนตอบว่าทุกข้อ
 
กฎที่ไม่ชอบที่สุด
 
สำหรับคำถามว่ากฎเกณฑ์ของโรงเรียนเรื่องใดที่นักเรียนไม่ชอบมากที่สุดนั้น พบว่านักเรียนไม่ชอบให้โรงเรียนกำหนด ‘ทรงผม’ มากที่สุด โดยมีนักเรียนตอบข้อนี้ 990 คน คิดเป็น 49.87% รองลงมาคือ ยึดโทรศัพท์ก่อนเข้าเรียน เป็นจำนวน 209 คน คิดเป็น 10.5% ถัดมาห้ามแต่งหน้า จำนวน 195 คน คิดเป็น 9.82% บังคับใช้กระเป๋าของโรงเรียน 150 คน คิดเป็น 7.56% ห้ามทำสีผม 121 คน คิดเป็น 6.10% เล็บต้องสั้น 100 คน คิดเป็น 5.04% กำหนดรูปแบบถุงเท้า 59 คน คิดเป็น 2.97% กำหนดความยาวกางเกง/กระโปรง 29 คน คิดเป็น 1.46% บังคับใส่เสื้อซับใน 16 คน คิดเป็น 0.81% อื่นๆ 116 คน คิดเป็น 5.84% เช่น ห้ามใส่เสื้อแขนยาว เสื้อกันหนาวในฤดูร้อน ห้ามใส่เครื่องประดับ   
 
การลงโทษของครูที่ไม่ชอบที่สุด
 
ส่วนคำถามที่ว่าการลงโทษแบบไหนของครูที่นักเรียนไม่ชอบที่สุด พบว่า การประจานต่อหน้าเพื่อน เป็นสิ่งที่นักเรียนไม่ชอบมากที่สุด โดยมีนักเรียนเลือกตอบในข้อนี้ 777 คน คิดเป็น 39.14% รองลงมาคือการด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย จำนวน 356 คน คิดเป็น 17.93% อันดับสามคือ กล้อนผม/ตัดผม จำนวน 248 คน คิดเป็น 12.49% ยึดโทรศัพท์ 182 คน คิดเป็น 9.17% สควอตจัมป์/วิ่งรอบสนาม 130 คน คิดเป็น 6.55% การตี 107 คน คิดเป็น 5.39% ให้นั่งตากแดด 66 คน คิดเป็น 3.32% อื่นๆ 119 คน คิดเป็น 5.99% เช่น หักคะแนนความประพฤติ เก็บเงิน/โดนปรับด้วยเงิน ยึดของ 
 
เรื่องที่อยากให้ครูเข้าใจและช่วยเหลือมากที่สุด
 
ส่วนคำถามที่ว่าเรื่องที่นักเรียนอยากให้ครูเข้าใจและช่วยเหลือมากที่สุดคือเรื่องใดนั้น พบว่า เรื่องที่นักเรียนตอบมากที่สุดก็คือ อยากให้ครูเข้าใจเงื่อนไขที่ต่างกันของนักเรียนแต่ละคน เช่น ปัญหาครอบครัว ปัญหาส่วนตัว โดยมีจำนวน 807 คน คิดเป็น 40.65% 
 
รองลงมาคือ อยากให้เข้าใจเรื่องสุขภาพจิตของนักเรียน เช่น อาการซึมเศร้า วิตกกังวล จำนวน 421 คน คิดเป็น 21.21% อันดับสามคือ ความแตกต่างทางกายภาพ เช่น รูปร่าง ความสูง สีผิว จำนวน 382 คน คิดเป็น 19.24% ความหลากหลายทางเพศ จำนวน 282 คน คิดเป็น 14.21% และอื่นๆ จำนวน 93 คน คิดเป็น 4.69% เช่น ความสามารถที่แตกต่างกันของนักเรียน การโดนบูลลี่ 
 
สิ่งที่ไม่อยากให้ครูทำมากที่สุด
 
คำถามที่ว่าอะไรคือสิ่งที่นักเรียนไม่อยากให้ครูทำมากที่สุด พบว่าอันดับหนึ่งคือการล้อเลียนนักเรียนด้วยเรื่องกายภาพ เพศ ชาติพันธุ์ สำเนียง จำนวน 447 คน คิดเป็น 22.52% รองลงมาคือ สั่งการบ้าน 400 คน คิดเป็น 20.15% พูดจาหยาบคาย จำนวน 290 คน คิดเป็น 14.61% 
 
เลือกที่รักมักที่ชัง จำนวน 280 คน คิดเป็น 14.11% สั่งงานที่ทำให้เกิดภาระทางการเงิน 239 คน คิดเป็น 12.04% ถึงเนื้อถึงตัว 63 คน คิดเป็น 3.17% นินทานักเรียนลงโซเชียลมีเดีย 59 คน คิดเป็น 2.97% ใช้ให้ทำงานในเรื่องส่วนตัว 54 คน คิดเป็น 2.72% รับสอนพิเศษแล้วออกข้อสอบ 42 คน คิดเป็น 2.12% โพสต์คลิป/ภาพถ่ายของนักเรียนลงโซเชียลมีเดีย 32 คน คิดเป็น 1.61% และอื่นๆ 79 คน คิดเป็น 3.98% เช่น นินทานักเรียนให้ครูคนอื่นหรือห้องอื่นฟัง สั่งงานในช่วงก่อนสอบหรือสั่งงานมากเกินไป 
 
สิ่งที่นักเรียนอยากให้มีมากที่สุด
 
ส่วนคำถามเรื่องสิ่งที่นักเรียนอยากให้มีมากที่สุด พบว่านักเรียนอยากให้ชั่วโมงเรียนน้อยลงมากที่สุด จำนวน 757 คน คิดเป็น 38.14% รองลงมาคือนักเรียนอยากใส่ชุดไปรเวทไปโรงเรียน จำนวน 386 คน คิดเป็น 19.45% อันดับสามคือ อยากให้มีกิจกรรมประเมินครู จำนวน 231 คน คิดเป็น 11.64% แต่งชุดนักเรียนตามเพศสภาพ 189 คน คิดเป็น 9.52% มีนักจิตวิทยาในโรงเรียน 185 คน คิดเป็น 8.32% อินเทอร์เน็ตฟรี 157 คน คิดเป็น 7.91% และอื่นๆ 80 คน คิดเป็น 4.03% เช่น ยกเลิกกฎระเบียบทรงผม คาบว่าง 
 
กิจกรรมที่นักเรียนไม่อยากให้มีที่สุด

 
สำหรับคำถามที่ว่ากิจกรรมใดที่นักเรียนไม่อยากให้มีมากที่สุด พบว่านักเรียนอยากให้ยกเลิกกิจกรรมหน้าเสาธง มากที่สุด จำนวน 532 คน คิดเป็น 26.8% รองลงมาคือ สมุดบันทึกความดี จำนวน 328 คน คิดเป็น 16.52% อันดับสามคือ กิจกรรมค่ายธรรมะ จำนวน 276 คน คิดเป็น 13.9% กิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ จำนวน 267 คน คิดเป็น 13.45% กิจกรรมสวดมนต์ จำนวน 220 คน คิดเป็น 11.08% กิจกรรมวันพ่อวันแม่ จำนวน 106 คน คิดเป็น 5.34% เวรทำความสะอาด จำนวน 98 คน คิดเป็น 4.94% กิจกรรมจิตอาสา จำนวน 82 คน คิดเป็น 4.13% อื่นๆ 76 คน คิดเป็น 3.83% เช่น กิจกรรมกีฬาสี บันทึกรักการอ่าน กิจกรรม 5 ส. 
 
วิชาที่อยากให้ยกเลิกที่สุด
 
ในคำถามที่ว่าวิชาใดที่นักเรียนอยากให้ยกเลิกที่สุด พบว่าวิชาลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด บำเพ็ญประโยชน์ เป็นวิชาที่นักเรียนอยากให้ยกเลิกมากที่สุด จำนวน 1,216 คน คิดเป็น 61.26% รองลงมาคือ วิชาพุทธศาสนา จำนวน 225 คน คิดเป็น 11.34% อันดับสามก็คือ วิชาหน้าที่พลเมือง จำนวน 128 คน คิดเป็น 6.45% วิชาชุมนุม/ชมรม จำนวน 127 คน คิดเป็น 6.40% นาฏศิลป์ จำนวน 122 คน คิดเป็น 6.15% พลศึกษา จำนวน 40 คน คิดเป็น 2.02% อื่นๆ 127 คน คิดเป็น 6.4% เช่น แนะแนว คณิตศาสตร์ กระบี่กระบอง 
 
วิชาที่อยากให้มีที่สุด
 
เมื่อถามว่า วิชาใดที่นักเรียนอยากให้มีมากที่สุดคือ การเงิน การลงทุน โดยมีนักเรียนที่เลือกตอบข้อนี้ 788 คน คิดเป็น 39.7% รองลงมาคือ วิชาว่าด้วยการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย จำนวน 416 คน คิดเป็น 20.96% อันดับสามคือ วิชาอีสปอร์ต จำนวน 396 คน คิดเป็น 19.95% แดนซ์ จำนวน 268 คน คิดเป็น 13.5% อื่นๆ จำนวน 117 คน คิดเป็น 5.89% เช่น ปฐมพยาบาลเบื้องต้น วิชาการป้องกันตัว แต่งหน้าทำผม ทำอาหาร 

ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: THE STANDARD TEAM วันที่ 13 มกราคม 2567 

สนับสนุนเพจโดยการซื้อสินค้า Shopee ลุ้นเข้า VIP ฟรี

เว็บไซต์ของเราเป็นผู้ช่วยกระจายข่าว
มิใช่ผู้จัดอบรมแต่อย่างใด

ติดตามเพจ FACEBOOK : ครูตอเต่า

ท่านสามารถติดต่อเข้าร่วมกลุ่ม ข่าวสาร เพื่อติดตามผลงานและสื่อต่าง ๆ ได้ที่ >> 

https://www.facebook.com/groups/298149415474258

ไลน์อบรมครู โปรดแตะลิงก์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วมโอเพนแชทนี้

https://line.me/ti/g2/EHHH3OnnzJUgpigjqZkqyZUJcEaO8E-KmecbSw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

เกี่ยวกับเรา

ครูตอเต่า และ krutortao.com ครูตอเต่าแบ่งปัน สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ แจกฟรี สื่อการสอน แนะนำ สื่อการสอนฟรี สำหรับครู ดาวน์โหลดไฟล์ ใบงาน ใบความรู้ สื่อออนไลน์ แบบฝึกหัด ข้อสอบ ทุกรายวิชา ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ไฟล์เอกสารฟรี ไฟล์หน้าปกฟรี บทความ เอกสารทางการศึกษา ไฟล์เอกสารประเมินวิทยฐานะ   รายงานการรอบรมนับชั่วโมง เกียรติบัตร เพื่อให้ครูนำไปใช้เป็นในการจัดการเรียนการสอน ให้กับนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามข่าวการศึกษา ข่าวทั่วไป อัพเดททันต่อเหตุการณ์ สอบครูผู้ช่วย แนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย รวมทั้งหมดไว้ที่นี่ krutortao.com เว็บไซต์เพื่อการศึกษา และยังสามารถติดตามได้ทางแฟนเพจ ครูตอเต่า อีกช่องทาง เพื่อพัฒนาการศึกษาไทย โดยไม่แสวงหาผลกำไรแต่อย่างใด

Krutortao ครูตอเต่า เป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ และแบ่งปัน ผลงานนครู สื่อการสอน หลักสูตรการ รับเกียรติบัตรออนไลน์ แบ่งปันความรู้ เพื่อนำไปพัฒนาตนเอง และพัฒนาวิชาชีพครู โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่มีการเรียกเก็บเงินใดๆ 

Share This Article
Exit mobile version